หน่วยที่ 6



หน่วยที่ 6 อินเตอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

            ประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับอินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริการ จดหมายเล็กทรอนิกส์แบบแลกเปลี่ยนถุงเมล์เป็นครั้งแรก โดยเริ่มที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ( Prince of Songkla University ) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรือสถาบันเอไอที ( AIT ) ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย ( โครงการ IDP ) ซึ่งเป็นการติดต่อเชื่อมโยงโดยสายโทรศัพท์ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้ยื่นขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ต Sritrang.psu.th ซึ่งนับเป็นที่อยู่อินเทอร์เน็ตแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาปี พ.ศ. 2534 บริษัท DEC ( Thailand ) จำกัดได้ขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของบริษัท โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ตเป็น dect.co.th โดยที่คำ “th” เป็นส่วนที่เรียกว่า โดเมน ( Domain ) ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงโซนของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยย่อมาจากคำว่า Thailand

การใช้งานอินเทอร์เน็ตชนิดเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมงในประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535
  กล่าวได้ว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตชนิดเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง ในประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535 โดยสถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตที่บริษัท ยูยูเน็ตเทคโนโลยี ( UUNET Technologies ) ประเทศสหรัฐอเมริกา

          ในปีเดียวกัน ได้มีหน่วยงานที่เชื่อมต่อแบบออนไลน์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ( AIT ) มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ โดยเรียกเครือข่ายนี้ว่าเครือข่าย ไทยเน็ต” ( THAInet ) ซึ่งนับเป็นเครือข่ายที่มี เกตเวย์“ ( Gateway ) หรือประตูสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

ความหมายของอินเทอร์เน็ต
            อินเตอร์เน็ต  (Internet) นั้นย่อมาจากคำว่า  “International network”  หรือ  “Inter Connection  network”  ซึ่งหมายถึง  เครือข่ายเฉพาะส่วนขององค์การ หรือหน่วยงาน ที่นำซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์แบบเป็น ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวหรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งโปรโตคอลที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
            ลักษณะ ของระบบอินเทอร์เน็ต เป็นเสมือนใยแมงมุม ที่ครอบคลุมทั่วโลก ในแต่ละจุดที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นสามารถสื่อสารกันได้หลายเส้นทาง ตามความต้องการ โดยไม่กำหนดตายตัวและไม่จำเป็นต้องไปตามเส้นทางโดยตรง อาจจะผ่านจุดอื่น ๆ หรือเลือกไปเส้นทางอื่นได้หลาย ๆ เส้นทาง การติดต่อสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นั้นอาจเรียกว่า การติดต่อสื่อสารแบบไร้มิติ หรือ Cyberspace
จาก ตัวอย่างแนวโน้มของอินเทอร์เน็ตข้างต้นจะเห็นได้ว่าการใช้อินเทอร์เน็ตจะ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันการทำธุรกิจต่าง ๆ จะมีการนำอินเทอร์เน็ตเช้ามาประยุกต์ใช้ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร หรือการทำธุรกิจและบริการ

ยุคของอินเตอร์เน็ต
"Internet1.0"
          ยุคแรกเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคล (Human-to-Human Communication) ในยุคนี้พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตจะเป็นเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลที่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเทคโนโลยีที่สำคัญที่พัฒนาใช้งานกับอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในยุคนี้ได้แก่ อีเมล (Email) และ ยูสเน็ต (UseNet)

        อีเมลเป็นเทคโนโลยีที่ยังมีการใช้งานในปัจจุบัน นอกจากการสื่อสารระหว่างบุคคลแล้วอีเมลได้มีการประยุกต์ใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคล (Human-to-Community Communication) ด้วย เทคโนโลยีเพื่อการนี้เรียกว่า เมลลิ่งลิสต์ (Mailing List) ซึ่งก็ยังมีการใช้งานอยู่เช่นกัน

       ส่วน UseNet ได้รับความนิยมลดน้อยลง แต่ก็ยังมีการใช้งานอยู่อย่างสม่ำเสมอจากผู้ใช้ที่ใช้งานมาตั้งแต่ในอดีต ผู้ให้บริการ UseNet รายสำคัญในปัจจุบันคือ Google ภายใต้ชื่อ Google Groups นั่นเอง

"Internet2.0"
          ยุคต่อมาเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารระหว่างบุคคลกับคอมพิวเตอร์ (Human-to-Computer Communication) เทคโนโลยีสำคัญที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตในยุคนี้ได้แก่ เว็บ (Web หรือ World Wide Web) เว็บเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานใดงานหนึ่งจากระยะไกลได้ผ่านกระบวนการใช้งานที่เป็นมาตราฐานเดียวกัน


"Internet3.0"
         ยุคที่สามของอินเตอร์เน็ตเป็นยุคที่เรากำลังจะก้าวไปสู่เป็น ยุคของการสื่อสารเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ (Computer-to-Computer Communication) รายละเอียดในเชิงแนวความคิดของยุคนี้เป็นเรื่องราวที่ต้องทำความเข้าใจกันมากทีเดียว เนื่องจากยุคนี้ ยังมาไม่ถึงและจะเป็นยุคที่สำคัญมากของการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติทีเดียว

 



ปัจจัยที่ทำให้อินเทอร์เน็ตประสบความสำเร็จ
1.เป็นมาตรฐาน มาตรฐานของระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จำนวนมากทั่วโลกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และมีศักยภาพที่จะทำให้อุปกรณ์แทบทุกชนิดติดต่อกันได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ เครื่องเล่นเกม ฯลฯ
2.เป็นการเชื่อมโยง การเชื่อมโยงกันของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้จำกัดเฉพาะวงแคบ หากแยกการเชื่อมโยงติดต่อกับบุคคลทั่วไปที่มีความต้องการตรงกัน โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทำ
ให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้ติดต่อกันโดยตรง
3.โลกไร้พรมแดน โลกของอินเทอร์เน็ตเป็นยุคไร้พรมแดน ตำแหน่งที่อยู่ของประเทศต่างๆ ไม่มีความสำคัญ ถึงแม้จะอยู่ที่ใดก็ตามย่อมติดต่อสื่อสารถึงกันได้ โดยไม่มีความรู้สึกแตกต่างด้านสถานที่
4. ความเร็วแสง ความเร็วเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของสารสนเทศ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ การให้สารสนเทศเดินทางแทนคน หรือวัตถุ โดยใช้แค็ตตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์ที่
สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทันทีที่ลูกค้าต้องการ แทนการส่ง แค็ตตาล็อกทางไปรษณีย์หรือใช้ระบบการประชุมทางไกล (Video Conferencing) แทนการเดินทางไปประชุมด้วยตนเองทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
5.การสื่อสารแบบสองทาง ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นการสนับสนุนการสื่อสารแบบสองทาง ผู้บริโภคหรือผู้รับสารสามารถมีส่วนร่วม หรือโต้ตอบกับสื่อทั้งการกระจายเสียง และกระจายภาพ โทรศัพท์สามารถเชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า โมเด็ม (Modem) ทำให้เกิดระบบทางด่วน

หลักการใช้อินเทอร์เน็ต
หลักการใช้อินเทอร์เน็ต โดยใช้หลัก SMART ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
(S) Safety ความปลอดภัย 
(M) Manners ความมีมารยาท
 
(A) Advertising and Privacy Protection การรักษาสิทธิส่วนบุคคลในการเลือกรับสื่อโฆษณา
 
(R) Research ความสามารถในการค้นคว้าข้อมูลที่เป็นประโยชน์
 
(T) Technology ความเข้าใจเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตสิ่งที่จำเป็นต้องรู้บนอินเทอร์เน็ตProtocol
 

การเชื่อมต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต
เชื่อมต่อโดยตรง 
เชื่อมต่อโดยตรง จะเป็นการเชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายหลัก (Backbone) โดยผ่านอุปกรณ์เกตเวย์ (Gateway) หรือเราเตอร์ (Router) จะต่อโดยตรงกับ Internet การเชื่อมต่อโดยตรงนั้นเป็นการเชื่อมต่อแบบตลอดเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง แต่การรับส่งข้อมูลนั้นรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ
การเชื่อมต่อผ่านทางผู้ให้บริการ 
การเชื่อมต่อผ่านทางผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการการเชื่อมต่อเรียกว่า ISP (Internet Service Provider) แบ่งลักษณะการเชื่อมต่อออกเป็น 2 ประเภท
          2.1 การเชื่อมต่อแบบองค์กร องค์กรที่มีการจัดระบบเครือข่ายอยู่แล้วเมื่อนำเครื่องเซิร์ฟเวอร์มาเชื่อมต่อกับ ISP เครื่องลูกในระบบก็สามารถเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้
          2.2 การเชื่อมต่อส่วนบุคคล โดยการเชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์ผ่านอุปกรณ์แปลงสัญญาณที่เรียกว่า โมเด็ม (Modulator/DEModulator : Modem) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่สูง โดยมักเรียกการเชื่อมต่อแบบนี้ว่า Dial - Up

ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
1 เป็นแหล่งข้อมูลที่ลึก และกว้าง เพราะข้อมูลถูกสร้างได้ง่าย แม้นักเรียน หรือผู้สูงอายุก็สร้างได้
2 เป็นแหล่งรับ หรือส่งข่าวสาร ได้หลายรูปแบบ เช่น mail, board, icq, irc, sms หรือ web เป็นต้น
3 เป็นแหล่งให้ความบันเทิง เช่น เกม ภาพยนตร์ ข่าว หรือห้องสะสมภาพ เป็นต้น
4 เป็นช่องทางสำหรับทำธุรกิจ สะดวกทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย เช่น e-commerce หรือบริการโอนเงิน เป็นต้น
5 ใช้แทน หรือเสริมสื่อที่ใช้ติดต่อสื่อสาร ในปัจจุบัน โดยเสียค่าใช้จ่าย และเวลาที่ลดลง
6 เป็นช่องทางสำหรับประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ หรือองค์กร

   ความสำคัญและประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
            ระบบอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันมีความสำคัญในการดำเนินงานในสังคมสารนิเทศด้านต่างๆ คือ
1.การศึกษา (Education)
ในระบบอินเทอร์เน็ต สภาพการศึกษาในสังคมหมู่บ้านโลกขยายตัวอย่างกว้างขวาง สภาพการเรียนการสอนได้เปลี่ยนแปลงไป จากการยึดผู้สอนเป็นหลัก เปลี่ยนเป็นยึดตัวผู้เรียนเป็นหลัก สื่อการเรียนการสอนสามารถหาได้ง่ายในระบบอินเทอร์เน็ต ระบบการศึกษาสามารถจัดได้ตามความต้องการของผู้สอนและผู้เรียน แนวโน้มของสถานศึกษาในยุคปัจจุบัน คือ การเปิดสอนทางไกล นักศึกษาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาศึกษายังสถานศึกษาของตนเอง ในต่างประเทศมีการเปิดสอนมหาวิทยาลัยบนอินเทอร์เน็ต ผู้เรียนและผู้สอนไม่จำเป็นต้องพบกันโดยตรง แต่ติดต่อซึ่งกันและกันในระบบอินเทอร์เน็ต มีรายละเอียดการเรียนการสอนผ่านในระบบอินเทอร์เน็ตจนกระทั่งสามารถเรียนจบ และ รับปริญญาจากสถานศึกษานั้นได้

2.   ข่าวสารความรู้ทั่วๆไป (Information)
ข่าวสารในสังคมสารนิเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนในสังคม ระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ทุกคนอยู่ในสังคมข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน ข่าวสารที่ได้รับอยู่ในลักษณะในสภาพปัจจุบัน ไม่ต้องเสียเวลาเพื่อติดตามอ่านข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือ หน้าจอโทรทัศน์ เพราะสามารถติดตามข่าวได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์แทน
3.การวิจัย (Research)
การวิจัยเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ ในสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วโลก ให้ความสำคัญของการวิจัย อินเทอร์เน็ตช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ต้องการข้อมูล มีแหล่งให้บริการข้อมูลเพื่อการวิจัยมากมาย เช่น สถานศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย บริษัทที่ให้บริการข้อมูลต่างๆ
4.การสื่อสาร (Communication)
การติดต่อสื่อสารในสังคมดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ระบบอินเทอร์เน็ตช่วยให้ทราบช่องทางของการสื่อสารได้ทั่วโลก  มีการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกัน ดังตัวอย่างที่สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาจัดทำโฮมเพจ ให้ผู้ที่สนใจทั่วโลก
5.   ธุรกิจ (Business)
คนในสังคมสารนิเทศกำลังตื่นตัวกับการประกอบธุรกิจการค้าอิเล็กทรอนิกส์ อยากได้
สินค้าใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางตลาด ก็สามารถเข้าไปค้นหาได้จากอินเทอร์เน็ตจากผู้ขายสินค้าในระบบอินเทอร์เน็ต
6.    การเมืองการปกครอง (Politics)
            ความจำเป็นในการรู้ในเรื่องการปกครองเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารในแต่ละประเทศต้องการให้เกิดขึ้นแก่คนในสังคม ระบบอินเทอร์เน็ตช่วยให้คนรู้เรื่องวิธีการดำรงชีวิตในสังคมที่ต้องปฏิบัติตาม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นตัวอย่างที่ดีหน่วยงานหนึ่งที่สามารถปรับปรุงการให้บริการข้อมูลแก่คนในประเทศไทย ให้รู้ถึงข้อมูลที่ควรปฏิบัติ เช่นการติดต่อกับอำเภอเพื่อแจ้งการเกิด การตายของสมาชิกภายในครอบครัว ระบบอินเทอร์เน็ตอำนวยประโยชน์ในการติดต่อข้อมูล ตลอดจนขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าฝ่ายปกครองของบ้านเมืองได้อย่างรวดเร็ว

7.กฏหมาย (Law)
ความไม่รู้กฎหมายถูกขจัดออกไปได้ในสังคมข่าวสารปัจจุบัน คนในสังคมสามารถทราบเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ตลอดเวลา ดังตัวอย่างที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำข้อมูลเผยแพร่ในระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศเห็นความสำคัญของกฎหมาย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายเรื่องนั้นๆ ถ้าคนไทยทุกคนมีคอมพิวเตอร์ใช้ และอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต ก็จะไม่พบปัญหาในเรื่องข้อมูลของกฎหมายไทยต่อไป

ข้อดีข้อเสียของอินเตอร์เน็ต
ข้อดี
-สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเดินทางไปหาข้อมูลเอง
-ทำให้เรามีโลกทัศน์ที่ไกลออกไป
 -เปรียบเสมือนห้องสมุดของโลกใช้ในการค้นคว้าข้อมูลในลักษณะต่างๆ เช่น งานวิจัย บทความ ความก้าวหน้า       ทางการแพทย์ ฯลฯ ได้จากแหล่งข้อมูลทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง
- สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสถานการณ์ต่างๆที่อยู่ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วจากการรายงานข่าวของสำนักข่าวที่มีเว็บไซด์อยู่ รวมถึงการพยากรณ์อากาศของประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย
- สามารถสนทนากับผู้อื่นที่อยู่ห่างไกลได้ทั้งในลักษณะการพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันและการพูดคุย
- สามารถเข้าร่วมกลุ่มอภิปราย หรือกลุ่มข่าวเพื่อแสดงความคิดเห็นในเรื่องเดียวกันซึ่งเป็นการขยายวิสัยทัศน์นั้นๆ
-สามรถติดประกาศข้อความต่างๆ ที่ต้องการประกาศให้ผู้อื่นทราบได้อย่างทั่วถึง
- สามารถถ่ายโอน(Download) โปรแกรม แฟ้มข้อความ ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว และเสียงจากเว็บไซต์
 -ให้บริการด้านระบบโปรแกรมขององค์กรต่างที่เป็น.NET
- ให้บริการทางด้าน E - ต่าง ๆ

ข้อเสีย
-เป็นสื่อที่ควบคุมยาก
-เป็นแหล่งอบายมุขในด้านต่างๆ
-เป็นสื่อที่วัยรุ่นติดและทำให้การเรียนตกตำลง
-ในการควบคุมในการใช้สื่อที่เป็นการเสื่อมเสียลำบาก เป็นช่องทางของมิจฉาชีพที่มีการทำให้เยาวชนเสียอนาคต
-สื่อบางสื่อไม่เหมาะกับเยาวชน เช่น เป็นสื่อลามกอนาจาร
-ใช้ในการหลอกลวงโดยการโฆษณาชวนเชื่อ
-ทำให้เสียเวลาที่ควรจะได้ในองค์กรหากใช้ในทางที่ผิด
 - เป็นช่องทางนำ Virus เข้าสู่ระบบ Computer
- ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น