หน่วยที่
6 อินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับอินเทอร์เน็ตในปี
พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริการ
จดหมายเล็กทรอนิกส์แบบแลกเปลี่ยนถุงเมล์เป็นครั้งแรก
โดยเริ่มที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ( Prince of Songkla University ) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรือสถาบันเอไอที
( AIT ) ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย
( โครงการ IDP ) ซึ่งเป็นการติดต่อเชื่อมโยงโดยสายโทรศัพท์
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
ได้ยื่นขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ต Sritrang.psu.th
ซึ่งนับเป็นที่อยู่อินเทอร์เน็ตแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาปี พ.ศ. 2534
บริษัท DEC ( Thailand ) จำกัดได้ขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของบริษัท
โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ตเป็น dect.co.th โดยที่คำ “th” เป็นส่วนที่เรียกว่า
โดเมน ( Domain ) ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงโซนของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
โดยย่อมาจากคำว่า Thailand
การใช้งานอินเทอร์เน็ตชนิดเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมงในประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน
กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535
กล่าวได้ว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตชนิดเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง ในประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535
โดยสถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว
9600 บิตต่อวินาที
จากการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตที่บริษัท
ยูยูเน็ตเทคโนโลยี ( UUNET Technologies ) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในปีเดียวกัน ได้มีหน่วยงานที่เชื่อมต่อแบบออนไลน์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ( AIT ) มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ โดยเรียกเครือข่ายนี้ว่าเครือข่าย “ไทยเน็ต” ( THAInet ) ซึ่งนับเป็นเครือข่ายที่มี “ เกตเวย์“ ( Gateway ) หรือประตูสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
ความหมายของอินเทอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต (Internet) นั้นย่อมาจากคำว่า “International network” หรือ “Inter Connection network”
ซึ่งหมายถึง เครือข่ายเฉพาะส่วนขององค์การ
หรือหน่วยงาน ที่นำซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์แบบเป็น ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน
ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวหรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol)
ซึ่งโปรโตคอลที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า
ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
ลักษณะ
ของระบบอินเทอร์เน็ต เป็นเสมือนใยแมงมุม ที่ครอบคลุมทั่วโลก
ในแต่ละจุดที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นสามารถสื่อสารกันได้หลายเส้นทาง
ตามความต้องการ โดยไม่กำหนดตายตัวและไม่จำเป็นต้องไปตามเส้นทางโดยตรง
อาจจะผ่านจุดอื่น ๆ หรือเลือกไปเส้นทางอื่นได้หลาย ๆ เส้นทาง
การติดต่อสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นั้นอาจเรียกว่า
การติดต่อสื่อสารแบบไร้มิติ หรือ Cyberspace
จาก ตัวอย่างแนวโน้มของอินเทอร์เน็ตข้างต้นจะเห็นได้ว่าการใช้อินเทอร์เน็ตจะ
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันการทำธุรกิจต่าง ๆ
จะมีการนำอินเทอร์เน็ตเช้ามาประยุกต์ใช้ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร
หรือการทำธุรกิจและบริการ
ยุคของอินเตอร์เน็ต
"Internet1.0"
ยุคแรกเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคล (Human-to-Human Communication) ในยุคนี้พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตจะเป็นเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลที่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเทคโนโลยีที่สำคัญที่พัฒนาใช้งานกับอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในยุคนี้ได้แก่ อีเมล (Email) และ ยูสเน็ต (UseNet)
ยุคแรกเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคล (Human-to-Human Communication) ในยุคนี้พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตจะเป็นเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลที่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเทคโนโลยีที่สำคัญที่พัฒนาใช้งานกับอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในยุคนี้ได้แก่ อีเมล (Email) และ ยูสเน็ต (UseNet)
อีเมลเป็นเทคโนโลยีที่ยังมีการใช้งานในปัจจุบัน นอกจากการสื่อสารระหว่างบุคคลแล้วอีเมลได้มีการประยุกต์ใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคล (Human-to-Community Communication) ด้วย เทคโนโลยีเพื่อการนี้เรียกว่า เมลลิ่งลิสต์ (Mailing List) ซึ่งก็ยังมีการใช้งานอยู่เช่นกัน
ส่วน UseNet ได้รับความนิยมลดน้อยลง
แต่ก็ยังมีการใช้งานอยู่อย่างสม่ำเสมอจากผู้ใช้ที่ใช้งานมาตั้งแต่ในอดีต
ผู้ให้บริการ UseNet รายสำคัญในปัจจุบันคือ Google ภายใต้ชื่อ Google Groups นั่นเอง
"Internet2.0"
ยุคต่อมาเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารระหว่างบุคคลกับคอมพิวเตอร์ (Human-to-Computer Communication) เทคโนโลยีสำคัญที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตในยุคนี้ได้แก่ เว็บ (Web หรือ World Wide Web) เว็บเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานใดงานหนึ่งจากระยะไกลได้ผ่านกระบวนการใช้งานที่เป็นมาตราฐานเดียวกัน
ยุคต่อมาเป็น ยุคของการเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารระหว่างบุคคลกับคอมพิวเตอร์ (Human-to-Computer Communication) เทคโนโลยีสำคัญที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตในยุคนี้ได้แก่ เว็บ (Web หรือ World Wide Web) เว็บเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานใดงานหนึ่งจากระยะไกลได้ผ่านกระบวนการใช้งานที่เป็นมาตราฐานเดียวกัน
"Internet3.0"
ยุคที่สามของอินเตอร์เน็ตเป็นยุคที่เรากำลังจะก้าวไปสู่เป็น ยุคของการสื่อสารเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ (Computer-to-Computer Communication) รายละเอียดในเชิงแนวความคิดของยุคนี้เป็นเรื่องราวที่ต้องทำความเข้าใจกันมากทีเดียว เนื่องจากยุคนี้ “ยังมาไม่ถึง” และจะเป็นยุคที่สำคัญมากของการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติทีเดียว
ยุคที่สามของอินเตอร์เน็ตเป็นยุคที่เรากำลังจะก้าวไปสู่เป็น ยุคของการสื่อสารเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ (Computer-to-Computer Communication) รายละเอียดในเชิงแนวความคิดของยุคนี้เป็นเรื่องราวที่ต้องทำความเข้าใจกันมากทีเดียว เนื่องจากยุคนี้ “ยังมาไม่ถึง” และจะเป็นยุคที่สำคัญมากของการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติทีเดียว
ปัจจัยที่ทำให้อินเทอร์เน็ตประสบความสำเร็จ
1.เป็นมาตรฐาน
มาตรฐานของระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จำนวนมากทั่วโลกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
และมีศักยภาพที่จะทำให้อุปกรณ์แทบทุกชนิดติดต่อกันได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ
โทรทัศน์ เครื่องเล่นเกม ฯลฯ
2.เป็นการเชื่อมโยง
การเชื่อมโยงกันของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้จำกัดเฉพาะวงแคบ
หากแยกการเชื่อมโยงติดต่อกับบุคคลทั่วไปที่มีความต้องการตรงกัน
โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทำ
ให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้ติดต่อกันโดยตรง
3.โลกไร้พรมแดน
โลกของอินเทอร์เน็ตเป็นยุคไร้พรมแดน ตำแหน่งที่อยู่ของประเทศต่างๆ ไม่มีความสำคัญ
ถึงแม้จะอยู่ที่ใดก็ตามย่อมติดต่อสื่อสารถึงกันได้
โดยไม่มีความรู้สึกแตกต่างด้านสถานที่
4. ความเร็วแสง ความเร็วเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ การให้สารสนเทศเดินทางแทนคน
หรือวัตถุ โดยใช้แค็ตตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์ที่
สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทันทีที่ลูกค้าต้องการ
แทนการส่ง แค็ตตาล็อกทางไปรษณีย์หรือใช้ระบบการประชุมทางไกล (Video Conferencing) แทนการเดินทางไปประชุมด้วยตนเองทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
5.การสื่อสารแบบสองทาง ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นการสนับสนุนการสื่อสารแบบสองทาง
ผู้บริโภคหรือผู้รับสารสามารถมีส่วนร่วม หรือโต้ตอบกับสื่อทั้งการกระจายเสียง และกระจายภาพ
โทรศัพท์สามารถเชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า โมเด็ม (Modem)
ทำให้เกิดระบบทางด่วน
หลักการใช้อินเทอร์เน็ต
หลักการใช้อินเทอร์เน็ต โดยใช้หลัก SMART ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
(S)
Safety ความปลอดภัย
(M) Manners ความมีมารยาท
(A) Advertising and Privacy Protection การรักษาสิทธิส่วนบุคคลในการเลือกรับสื่อโฆษณา
(R) Research ความสามารถในการค้นคว้าข้อมูลที่เป็นประโยชน์
(T) Technology ความเข้าใจเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตสิ่งที่จำเป็นต้องรู้บนอินเทอร์เน็ตProtocol
(M) Manners ความมีมารยาท
(A) Advertising and Privacy Protection การรักษาสิทธิส่วนบุคคลในการเลือกรับสื่อโฆษณา
(R) Research ความสามารถในการค้นคว้าข้อมูลที่เป็นประโยชน์
(T) Technology ความเข้าใจเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตสิ่งที่จำเป็นต้องรู้บนอินเทอร์เน็ตProtocol
การเชื่อมต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต
เชื่อมต่อโดยตรง
เชื่อมต่อโดยตรง จะเป็นการเชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายหลัก (Backbone) โดยผ่านอุปกรณ์เกตเวย์ (Gateway) หรือเราเตอร์ (Router) จะต่อโดยตรงกับ Internet การเชื่อมต่อโดยตรงนั้นเป็นการเชื่อมต่อแบบตลอดเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง แต่การรับส่งข้อมูลนั้นรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ
เชื่อมต่อโดยตรง จะเป็นการเชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายหลัก (Backbone) โดยผ่านอุปกรณ์เกตเวย์ (Gateway) หรือเราเตอร์ (Router) จะต่อโดยตรงกับ Internet การเชื่อมต่อโดยตรงนั้นเป็นการเชื่อมต่อแบบตลอดเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง แต่การรับส่งข้อมูลนั้นรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ
การเชื่อมต่อผ่านทางผู้ให้บริการ
การเชื่อมต่อผ่านทางผู้ให้บริการ
ผู้ให้บริการการเชื่อมต่อเรียกว่า ISP (Internet
Service Provider) แบ่งลักษณะการเชื่อมต่อออกเป็น 2 ประเภท
2.1 การเชื่อมต่อแบบองค์กร
องค์กรที่มีการจัดระบบเครือข่ายอยู่แล้วเมื่อนำเครื่องเซิร์ฟเวอร์มาเชื่อมต่อกับ ISP
เครื่องลูกในระบบก็สามารถเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้
2.2 การเชื่อมต่อส่วนบุคคล
โดยการเชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์ผ่านอุปกรณ์แปลงสัญญาณที่เรียกว่า โมเด็ม (Modulator/DEModulator
: Modem) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่สูง โดยมักเรียกการเชื่อมต่อแบบนี้ว่า Dial
- Up
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
1 เป็นแหล่งข้อมูลที่ลึก และกว้าง
เพราะข้อมูลถูกสร้างได้ง่าย แม้นักเรียน หรือผู้สูงอายุก็สร้างได้
2 เป็นแหล่งรับ หรือส่งข่าวสาร
ได้หลายรูปแบบ เช่น mail, board, icq, irc, sms หรือ web เป็นต้น
3 เป็นแหล่งให้ความบันเทิง เช่น เกม
ภาพยนตร์ ข่าว หรือห้องสะสมภาพ เป็นต้น
4 เป็นช่องทางสำหรับทำธุรกิจ
สะดวกทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย เช่น e-commerce หรือบริการโอนเงิน
เป็นต้น
5 ใช้แทน
หรือเสริมสื่อที่ใช้ติดต่อสื่อสาร ในปัจจุบัน โดยเสียค่าใช้จ่าย และเวลาที่ลดลง
6
เป็นช่องทางสำหรับประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ หรือองค์กร
ความสำคัญและประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
ระบบอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันมีความสำคัญในการดำเนินงานในสังคมสารนิเทศด้านต่างๆ
คือ
1.การศึกษา (Education)
ในระบบอินเทอร์เน็ต สภาพการศึกษาในสังคมหมู่บ้านโลกขยายตัวอย่างกว้างขวาง
สภาพการเรียนการสอนได้เปลี่ยนแปลงไป จากการยึดผู้สอนเป็นหลัก
เปลี่ยนเป็นยึดตัวผู้เรียนเป็นหลัก
สื่อการเรียนการสอนสามารถหาได้ง่ายในระบบอินเทอร์เน็ต
ระบบการศึกษาสามารถจัดได้ตามความต้องการของผู้สอนและผู้เรียน แนวโน้มของสถานศึกษาในยุคปัจจุบัน
คือ การเปิดสอนทางไกล นักศึกษาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาศึกษายังสถานศึกษาของตนเอง
ในต่างประเทศมีการเปิดสอนมหาวิทยาลัยบนอินเทอร์เน็ต
ผู้เรียนและผู้สอนไม่จำเป็นต้องพบกันโดยตรง
แต่ติดต่อซึ่งกันและกันในระบบอินเทอร์เน็ต มีรายละเอียดการเรียนการสอนผ่านในระบบอินเทอร์เน็ตจนกระทั่งสามารถเรียนจบ
และ รับปริญญาจากสถานศึกษานั้นได้
2. ข่าวสารความรู้ทั่วๆไป (Information)
ข่าวสารในสังคมสารนิเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนในสังคม
ระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ทุกคนอยู่ในสังคมข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน ข่าวสารที่ได้รับอยู่ในลักษณะในสภาพปัจจุบัน
ไม่ต้องเสียเวลาเพื่อติดตามอ่านข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือ หน้าจอโทรทัศน์
เพราะสามารถติดตามข่าวได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์แทน
3.การวิจัย (Research)
การวิจัยเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ
ในสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วโลก ให้ความสำคัญของการวิจัย
อินเทอร์เน็ตช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ต้องการข้อมูล
มีแหล่งให้บริการข้อมูลเพื่อการวิจัยมากมาย เช่น สถานศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย
บริษัทที่ให้บริการข้อมูลต่างๆ
4.การสื่อสาร (Communication)
การติดต่อสื่อสารในสังคมดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
ระบบอินเทอร์เน็ตช่วยให้ทราบช่องทางของการสื่อสารได้ทั่วโลก มีการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกัน
ดังตัวอย่างที่สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาจัดทำโฮมเพจ
ให้ผู้ที่สนใจทั่วโลก
5. ธุรกิจ (Business)
คนในสังคมสารนิเทศกำลังตื่นตัวกับการประกอบธุรกิจการค้าอิเล็กทรอนิกส์
อยากได้
สินค้าใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางตลาด
ก็สามารถเข้าไปค้นหาได้จากอินเทอร์เน็ตจากผู้ขายสินค้าในระบบอินเทอร์เน็ต
6. การเมืองการปกครอง (Politics)
ความจำเป็นในการรู้ในเรื่องการปกครองเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารในแต่ละประเทศต้องการให้เกิดขึ้นแก่คนในสังคม
ระบบอินเทอร์เน็ตช่วยให้คนรู้เรื่องวิธีการดำรงชีวิตในสังคมที่ต้องปฏิบัติตาม
กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
เป็นตัวอย่างที่ดีหน่วยงานหนึ่งที่สามารถปรับปรุงการให้บริการข้อมูลแก่คนในประเทศไทย
ให้รู้ถึงข้อมูลที่ควรปฏิบัติ เช่นการติดต่อกับอำเภอเพื่อแจ้งการเกิด
การตายของสมาชิกภายในครอบครัว ระบบอินเทอร์เน็ตอำนวยประโยชน์ในการติดต่อข้อมูล
ตลอดจนขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าฝ่ายปกครองของบ้านเมืองได้อย่างรวดเร็ว
7.กฏหมาย (Law)
ความไม่รู้กฎหมายถูกขจัดออกไปได้ในสังคมข่าวสารปัจจุบัน
คนในสังคมสามารถทราบเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ตลอดเวลา
ดังตัวอย่างที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำข้อมูลเผยแพร่ในระบบอินเทอร์เน็ต
เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศเห็นความสำคัญของกฎหมาย
โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายเรื่องนั้นๆ ถ้าคนไทยทุกคนมีคอมพิวเตอร์ใช้
และอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต ก็จะไม่พบปัญหาในเรื่องข้อมูลของกฎหมายไทยต่อไป
ข้อดีข้อเสียของอินเตอร์เน็ต
ข้อดี
-สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเดินทางไปหาข้อมูลเอง
-ทำให้เรามีโลกทัศน์ที่ไกลออกไป
-เปรียบเสมือนห้องสมุดของโลกใช้ในการค้นคว้าข้อมูลในลักษณะต่างๆ เช่น
งานวิจัย บทความ ความก้าวหน้า
ทางการแพทย์ ฯลฯ ได้จากแหล่งข้อมูลทั่วโลก ตลอด 24
ชั่วโมง
- สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสถานการณ์ต่างๆที่อยู่ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วจากการรายงานข่าวของสำนักข่าวที่มีเว็บไซด์อยู่
รวมถึงการพยากรณ์อากาศของประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย
- สามารถสนทนากับผู้อื่นที่อยู่ห่างไกลได้ทั้งในลักษณะการพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันและการพูดคุย
- สามารถเข้าร่วมกลุ่มอภิปราย
หรือกลุ่มข่าวเพื่อแสดงความคิดเห็นในเรื่องเดียวกันซึ่งเป็นการขยายวิสัยทัศน์นั้นๆ
-สามรถติดประกาศข้อความต่างๆ
ที่ต้องการประกาศให้ผู้อื่นทราบได้อย่างทั่วถึง
- สามารถถ่ายโอน(Download) โปรแกรม แฟ้มข้อความ ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว และเสียงจากเว็บไซต์
-ให้บริการด้านระบบโปรแกรมขององค์กรต่างที่เป็น.NET
- ให้บริการทางด้าน E - ต่าง ๆ
ข้อเสีย
-เป็นสื่อที่ควบคุมยาก
-เป็นแหล่งอบายมุขในด้านต่างๆ
-เป็นสื่อที่วัยรุ่นติดและทำให้การเรียนตกตำลง
-ในการควบคุมในการใช้สื่อที่เป็นการเสื่อมเสียลำบาก
เป็นช่องทางของมิจฉาชีพที่มีการทำให้เยาวชนเสียอนาคต
-สื่อบางสื่อไม่เหมาะกับเยาวชน เช่น
เป็นสื่อลามกอนาจาร
-ใช้ในการหลอกลวงโดยการโฆษณาชวนเชื่อ
-ทำให้เสียเวลาที่ควรจะได้ในองค์กรหากใช้ในทางที่ผิด
- เป็นช่องทางนำ Virus เข้าสู่ระบบ Computer
- ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ง่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น